ประเด็นสำคัญอยู่ที่การเปลี่ยนขุมพลัง โดยมิตซูบิชิตัดสินใจถอดเครื่องยนต์ดีเซล 3.2 ลิตรออกไปจากตลาด(เมืองไทย) และหันมาคบกับขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบแปรผัน...เรียกว่า “ไทรทัน-ปาเจโร สปอร์ต” รุ่นไหนที่เคยวางเครื่อง 3.2 ลิตร แต่จากนี้ไปจะเปลี่ยนมาใช้ขนาด 2.5 ลิตร เทอร์โบแปรผันทั้งหมด | |||
...หลังการเปิดตัว “ไทรทัน” และ “ปาเจโร สปอร์ต” ใหม่ ไม่นาน บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย รีบจัดทริปให้สื่อมวลชนได้ทดสอบทันที โดยตลอดเส้นทางกว่า 400 กิโลเมตร กรุงเทพฯ-เขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” ได้ “ปาเจโร สปอร์ต” ขับเคลื่อน 4 ล้อ GT (ราคา 1.312 ล้านบาท) เป็นพาหนะ ดังนั้นบทความนี้จะขอว่าด้วย “พีพีวี คันเก่ง” ล้วนๆ ส่วนปิกอัพ “ไทรทัน” ถ้ามีโอกาสจะนำมาเสนอภายหลัง | |||
ส่วนความอเนกประสงค์ที่ยังลงตัวเหมือนเดิมคือ เบาะนั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง โดยเบาะแถว 2 ปรับเลื่อนหน้า-ถอยหลัง และแยกพับพนักพิงแบบ 60:40 ได้ ขณะเดียวกันเบาะนั่งแถว 3 สามารถพับเก็บให้ราบไปกับพื้นห้องโดยสาร ซึ่งดูเรียบร้อยและเพิ่มเนื้อที่เก็บสัมภาระด้านหลังได้เป็นอย่างดี | |||
| |||
สำหรับสมรรถนะการขับขี่ ทริปนี้ผู้เขียนได้โอกาสควบยาวไม้เดียวรวด โดยเส้นทางที่ทีมงานมิตซูบิชิเตรียมไว้ มีทั้งทางดำ และทางฝุ่น ขับกันตั้งแต่เช้ายันมืด ก็ทำให้รับรู้นิสัยใจคอของ “ปาเจโร สปอร์ต วีจี เทอร์โบ” ได้ดีระดับหนึ่ง | |||
...คือจะว่าอืดก็ไม่อืดน่าเกลียด เพียงแต่เห็น(ตัวเลข)สมรรถนะการขับเคลื่อนแล้ว ผู้เขียนนึกว่าจะจัดจ้านกว่านี้ เพราะสุดท้าย “ปาเจโร สปอร์ต วีจี เทอร์โบ ใหม่” ให้อัตราเร่ง หรือจังหวะออกตัว แทบไม่ต่างจากรุ่นเดิม 3.2 ลิตร เทอร์โบ 165 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 351 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที จากจุดหยุดนิ่งไปถึงความเร็ว 40-50 กม./ชม. ยังต้องเร่งต้องลุ้นนิดหน่อย จังหวะเร่งแซง ถ้าอยากเอาชัวร์ก็เชนเกียร์ลงมานิดหนึ่ง แต่ถ้าความเร็วเลยไปกว่านั้น หรือรอบเกือบๆ 3,000 พลังก็ไหลมาต่อเนื่อง ส่วนความเร็วปลายเหลือๆ | |||
| |||
จังหวะเปลี่ยนเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีดชุดนี้ ตอบสนองดี ส่งกำลังลื่นไหลพอสมควร หรือจะเล่นแพดเดิลชิฟท์หลังพวงมาลัย ก็โอเคครับ เพียงแต่แป้นแพดเดิลชิฟท์ (เพิ่มเกียร์มือขวา-ลดเกียร์มือซ้าย)จะนิ่งอยู่กับที่ ไม่หมุนตามวงเลี้ยวพวงมาลัย แบบเดียวกับ “แลนเซอร์ อีเอ็กซ์” ตรงนี้แล้วแต่ชอบ ส่วนตัวผู้เขียนเองไม่ค่อยถนัดนัก น้ำหนักพวงมาลัยกำลังพอดี จับถนัดมั่นใจแม้ความเร็วสูง แต่การสั่งงานซ้าย-ขวา มีระยะฟรีเหลือพอสมควร ซึ่งการเซ็ทพวงมาลัยลักษณะนี้เป็นความตั้งใจของวิศวกรมิตซูบิชิ เพราะเขาน่าจะเล็งเห็นถึงความปลอดภัย เวลาหักเลี้ยวกะทันหันที่ความเร็วสูง ตลอดจนผลพลอยได้อย่างการวิ่งทางฝุ่นหรือเส้นทางออฟโรด ที่พวงมาลัยจะไม่ดีดเด้งจนผู้ขับปวดมือ | |||
ประเด็นนี้ผู้เขียนก็ “งง” เหมือนกัน เพราะในรุ่น 3.2 ลิตรเดิมนั้น ช่วงล่างเซ็ทมาค่อนข้างดี เรียกว่าการทรงตัว และความนิ่งในโค้ง เป็นจุดเด่นที่ผู้เขียนแนะนำให้เพื่อนซื้อไปหลายคันแล้ว ...ฝากไว้นะครับ เมื่อรถเบาลงร่วม 30 กิโลกรัม (เทียบกับตัว 3.2 ลิตร GTขับเคลื่อน 4 ล้อเดิม) แถมแรงม้ามากขึ้น น่าจะเซ็ทช่วงล่างให้แข็ง หรือลงตัวกว่านี้อีกนิด สุดท้ายของทริป มิตซูบิชิยังจัดขบวนให้ “ปาเจโร สปอร์ต” และ “ไทรทัน” ลุยเข้าทุ่งแสลงหลวง อีกประมาณ 20 กิโลเมตร โดยตลอดเส้นทางเป็นทางดิน ฝุ่นหนา สลับหินก่อนโต ผู้เขียนจัดแจงปรับโหมดขับเคลื่อนจาก 2H ที่ปกติส่งกำลังไปล้อหลัง 100% มาเป็นขับเคลื่อน 4 ล้อแบบ 4H ที่จะกระจายกำลัง หน้า-หลังเท่ากัน 50:50 ซึ่งระบบของเขาดีอย่างที่คุยจริงๆ โดยเฉพาะทางร่อนโค้งแคบ การขับยังหนึบหนับมั่นใจ บางช่วงผู้ขับยัดเกียร์ 3 ใช้เกียร์ 4 โดยเลือกให้เหมาะตามสภาพถนน ขณะเดียวกันพวงมาลัยซับอาการสะท้อนจากพื้นได้ดี ไม่ดีดเด้งตามที่กล่าวไว้ ทำให้ทางข้างหน้ากลายเป็นเรื่องง่ายสำหรับ “ปาเจโร สปอร์ต” และดูจะคุ้มค่าเงินที่จ่ายเพื่อระบบเทพ Super Select 4WD ขึ้นมาหน่อย(ซื้อมาต้องได้ใช้ครับ...อย่าลืม) ในส่วนของอัตราบริโภคน้ำมันที่มีการวัดช่วง 200 กิโลเมตรแรก (ทางตรง-ถนนดี)“ปาเจโร สปอร์ต ขับเคลื่อน 4 ล้อ” ของผู้เขียน ขับความเร็วเฉลี่ย 120-130 กม./ชม. และมีจังหวะลองเร่ง เข่นแรงขึ้นไปความเร็วสูงด้วยเช่นกัน ผลสุดท้ายทำตัวเลขได้ 11.20 -11.30กม./ลิตร...ส่วนรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ ที่ผู้สื่อข่าวท่านอื่นขับ เห็นว่ามีตัวเลขระดับ 13-15 กม./ลิตร | |||
สำหรับมิตซูบิชิก็เดินตามแนวทางของโลก และกลไกลตลาด ส่วนคำว่า “แรง” หรือ “อืด” ขึ้นอยู่กับความพอใจของแต่ละคน ขณะที่“ปาเจโร สปอร์ต 4WD วีจี เทอร์โบ” บอกได้เพียงว่าการขับไม่ได้จัดจ้านกว่า 3.2 ลิตรเดิม แต่มิตซูบิชิยืนยันว่าจิบน้ำมันน้อยกว่าแน่นอน ส่วนช่วงล่างที่ผู้เขียนว่านุ่มนั้น ถ้ามองเป็นรถครอบครัวอเนกประสงค์นั่งสบาย ก็สมเหตุสมผล(ผู้โดยสารนั่งกันไปเต็มคันอาจจะพอดี)...สนนราคารุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ ตัวท็อป GT ขึ้นมาจากเดิมประมาณ45,000 บาท ดูน่าตกใจ ฉะนั้นแล้วถ้าไม่เน้นออฟโรด ลุยหนัก ซื้อรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ พอแล้ว แถมประหยัดเงินไปหลายแสนนะครับ |
วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
ปาเจโร สปอร์ต 2.5VGT “รักนุ่ม-ขับนิ่มเชิญทางนี้”
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น