วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

“Jazz Minor change” ลุคเข้ม ขับสบายเหมือนเดิม

ผ่านร้อนผ่านหนาว ทำพลาด ตัดสินใจถูก มาเยอะกับการดำเนินธุรกิจในไทย ถึงวันนี้ค่ายรถยนต์ “ฮอนด้า” ถือว่าประสบความสำเร็จ ทั้งการสร้างแบรนด์ และยอดขายที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ จากหลักพัน หลักหมื่น จนถึงหลักแสนในปีที่ผ่านมา
       หลายคนคงทราบถึงการเปิดตัว “บริโอ้” อีโคคาร์น้องใหม่ ที่จะเข้ามาสร้างความแข็งแกร่งด้านโปรดักต์ เสริมคู่ไปกับเก๋งรุ่นพี่อย่าง ซิตี้ แจ๊ซ ซีวิค แอคคอร์ด 
      
       ก่อนจะถึงเรื่องของ “บริโอ้” ที่ “ASTVผู้จัดการมอเตอริ่ง” จะนำมาเสนอในโอกาสต่อไป...ฮอนด้า ประเดิมต้นปีด้วยการจับซับ-คอมแพกต์รุ่น “แจ๊ซ” มาแต่งหน้าทาปากและปรับออปชัน พร้อมจัดให้ผู้สื่อข่าวได้ลองขับสั้นๆ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
      
       โดย “แจ๊ซ” นับตั้งแต่เจเนอเรชันแรก (เปิดตัวปี 2546) จนถึงรุ่นล่าสุดซึ่งเป็นเจเนอเรชันที่สอง (เปิดตัวปี 2551) ทำยอดขายสะสมในไทยไปกว่า 130,000 คันและส่งผลให้ “แจ๊ซ” กลายเป็นรถแฮตช์แบ็ก 5 ประตูในกลุ่มซับคอมแพกต์ ที่ขายดีที่สุดของเมืองไทยตลอด 7 ปีที่ผ่านมา
       ส่วนรุ่นไมเนอร์เชนจ์ที่เพิ่งเปิดตัวไปหมาดๆ ฮอนด้าจัดการปรับรูปลักษณ์ภายนอกทั้ง ออกแบบกันชนหน้า-หลัง และกระจังหน้า ไฟหน้าใหม่ ส่วนรุ่นท็อป SV เพิ่มไฟตัดหมอกหน้า สเกิร์ตข้าง ปลายท่อไอเสียโครเมียม พร้อมไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง (3 รายการหลังรุ่นเก่าก็มี) ขณะเดียวกันยังหันมาใช้หลอด LED กับไฟท้าย (ลายใหม่) และไฟเบรกดวงที่สาม ซึ่งจัดเป็นมาตรฐานเหมือนกันทุกรุ่น
      
       ภายในปรับเพียงเบาะผ้าลายใหม่ และมาตรวัดเรืองแสงสีส้ม ส่วนออปชันที่เพิ่มเป็นมาตรฐานทุกรุ่น คือ ช่องเชื่อมต่อ USB เครื่องเสียงแบบโมดูล พร้อมระบบปรับระดับเสียงอัตโนมัติ รวมถึงถุงลมนิรภัยคู่หน้า และเข็มขัดนิรภัยแบบดึงกลับอัตโนมัติ
      
       เมื่อดูออปชันที่เพิ่มเข้ามาก็ดูสมเหตุสมผลกับราคาที่เพิ่มขึ้นประมาณ 10,000-20,000 บาท แล้วแต่รุ่น หรือสนนราคาตั้งแต่ 590,000-715,000 บาท
      
       สำหรับรูปลักษณ์ที่ปรับโฉม ดูโฉบเฉี่ยวเตะตามากขึ้น แต่ในรุ่นท็อป SV ที่ได้ลองขับ ส่วนตัวผู้เขียนรู้สึกว่าดูแปลกไปนิด ทั้งกันชนหน้า-ไฟตัดหมอก ดูเกินๆ ล้ำๆ พิกล (หรือผู้เขียนอายุมาก) ผิดกับรุ่นล่างที่ดูพอดีลงตัวกว่า แม้จะใช้ล้อขนาด 15 นิ้วก็ตาม 
      
       พลันเข้าไปนั่งตำแหน่งผู้ขับ ยังประทับใจกับทัศนวิสัยชัดเจน ผ่านกระจกหน้า กระจกมองข้าง ด้านเบาะผ้าโอบกระชับขนาดพอดีตัว ไม่นุ่มไม่แข็งเกินไป
       ส่วนบานประตูหน้า-หลัง เปิดกว้าง และน่าจะมีระยะเปิดอยู่ 3 ระดับ คือจะเอาแคบหรือเอากว้างสุดๆ เพื่อรองรับการเข้า-ออกอย่างสะดวกสบาย ซึ่งประเด็นนี้ถือว่าฮอนด้าทำการบ้านมาดี
      
       ภายในรวมๆ กว้างขวางทุกที่นั่ง ระยะขา-ระยะหัวเหลือเพียบ เรียกว่าเป็นซับคอมแพกต์ตัวถังแฮตช์แบ็ก ที่พื้นที่ใช้สอยมากที่สุดก็ว่าได้ ขณะเดียวกัน เบาะนั่งแถวสองสามารถปรับพับได้หลายรูปแบบ ช่วยเพิ่มความอเนกประสงค์ในการบรรทุกสัมภาระได้อย่างยอดเยี่ยม
       เครื่องเสียงที่เล่น ซีดี MP3 ได้ 1 แผ่น พร้อมขับด้วยลำโพง 4 ตัว คุณภาพเสียงดี แถมมีช่องเสียบ AUX USB เชื่อมต่อกับเครื่องเล่นต่างๆได้ แต่กระนั้นการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารรวมถือว่าอยู่ระดับพอใช้ เพราะเสียงจากภายนอกรู้สึกจะเล็ดลอดเข้ามาเยอะเหลือเกิน นี่ยังไม่นับรวมเสียงเครื่องยนต์ที่ถือว่าดังตามสไตล์ฮอนด้ามานานแล้ว
       ด้านเครื่องยนต์ไม่ได้ปรับจูนอะไร กับ i-VTEC แบบ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว ขนาด 1,497 ซีซี ให้กำลังสูงสุด 120 แรงม้าที่ 6,600 รอบต่อนาที แรงบิด 145 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 5 สปีด โดยจังหวะออกตัวพุ่งเล็กน้อย และมีอาการดึงเล็กๆ 
      
       สำหรับอัตราเร่งมาทันใจตอบสนองดีทุกย่านความเร็ว ส่วนการเปลี่ยนเกียร์อาจรับรู้ถึงจังหวะรอยต่อ หรือกระชากนิดๆ จังหวะไล่ไปแต่ละเกียร์ดูปลดปล่อยพลังออกมาได้เต็มอารมณ์สปอร์ต
       ขณะที่พวงมาลัยไฟฟ้าน้ำหนักเบา แต่สั่งงานแม่นยำ การควบคุมในเมืองการจราจรหนาแน่นให้ความคล่องตัว ยิ่งจังหวะขึ้นห้าง หรือถอยเข้าที่จอดทำได้สบาย แต่ในช่วงการขับขี่ความเร็วสูงน่าจะทดน้ำหนักให้หน่วง กระชับมือกว่านี้อีกนิด
      
       ช่วงล่างของ “แจ๊ซ ไมเนอร์เชนจ์” ไม่ได้ปรับอะไรเช่นกัน โดยด้านหน้าเป็นแบบ อิสระแม็กเฟอร์สันสตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง หลังเป็นแบบคานแข็งตามสไตล์รถเล็ก เซ็ทมานุ่ม การขับในเมืองรองรับแรงสะท้านจากพื้นถนนเยี่ยม มีอาการโยกคลอนเล็กน้อยช่วงเปลี่ยนเลนกะทันหัน ส่วนการขับทางไกลใช้ความเร็วสูงการทรงตัวค่อนข้างดี ในส่วนของสัมผัสเบรกเบาลึก แต่ตอบสนองดี ระยะชะลอหยุดอยู่ในความคาดหมาย
       ปิดท้ายด้วยอัตราบริโภคน้ำมันเฉลี่ย จากการขับนอกเมือง-ในเมืองรถติด ผู้เขียนทำได้ 13.3 กิโลเมตรต่อลิตร
      
       รวบรัดตัดความ...ยังเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ สำหรับคนที่ชอบรถสไตล์แฮตช์แบ็ก โดดเด่นด้วยความอเนกประสงค์ ภายในกว้างขวาง พร้อมตอบสนองการขับในเมือง เน้นควบคุมง่าย นุ่มมือ สบายเท้า...ซื้อได้ ก็ซื้อเลย!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น