วันพฤหัสบดีที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

BT-50 Road Master ลุย“อุ้มผาง” 1,200 โค้ง

       ช่วงเทศกาลมีวันหยุดยาว และอากาศหนาวๆแบบนี้ หลายคนตัดสินใจชวนเพื่อน นัดครอบครัว ไปสัมผัสลมเย็นตามต่างจังหวัด โดยเฉพาะดอยสูงทางภาคเหนือถือเป็นจุดหมายยอดฮิต ส่วนผู้เขียนเองนั่งตัวดำคร่ำเคร่งกับงานมาตลอดทั้งปี ก็อยากหนีเครื่องปรับอากาศในกรุงเทพฯ ไปโดนลมโชยธรรมชาติกับเขาบ้าง
      
       ...พอดีกับ มาสด้า เซลส์ ประเทศไทย เตรียมจัดทดสอบปิกอัพคันเก่ง “บีที-50”โดยวางเป้าหมายไว้ไกลถึงอำเภออุ้งผาง จังหวัดตาก ผู้เขียนเลยขอติดทริปไปสุดขอบชายแดนกับเขาด้วย
       สำหรับ “บีที-50” ที่ใช้เป็นพาหนะในทริปนี้ ถือว่าไม่ธรรมดาครับ เพราะทางมาสด้า นำตัวแต่งพิเศษผลิตจำนวนจำกัด (Limited Edition) รุ่น“โรด มาสเตอร์”มาให้ลองกับระยะทางรวมกว่า600 กิโลเมตร
      
       โดย “บีที-50 โรดมาสเตอร์” เป็นโปรเจกต์กระตุ้นความสดใหม่ให้กับตัวสินค้า ซึ่งอย่างที่ทราบกันว่า ปิกอัพโมเดลนี้ เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของการทำตลาด และโฉมใหม่แบบโมเดลเชนจ์ก็จ่อคิวเปิดตัวอีกประมาณ 1 ปี นับจากนี้
      
       “บีที-50 โรดมาสเตอร์” ถูกนำมาอวดโฉมพร้อมขายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2010 ที่ผ่านมา โดยมาสด้าเลือกรุ่นขับเคลื่อนสองล้อยกสูงหรือไฮเรเซอร์ ตัวถังโอเพ่นแค็บ มาตกแต่งพิเศษ ทั้งลายกันชนหน้าใหม่ที่ดูโดดเด่นดุดัน บริเวณด้านข้างแปะสติกเกอร์ Road Master สีสันโฉบเฉี่ยว พร้อมบันไดข้าง และเสริมออปชัน อาทิ เซ็นเซอร์กะระยะถอยหลังสีเดียวกับตัวรถ พื้นปูกระบะ พรมปูพื้นภายในห้องโดยสารลายพิเศษจากมาสด้า ซึ่งทั้งหลายทั้งปวงจัดมาจำกัดเพียง 300 คัน มี 3 สีให้เลือก คือ ขาว ดำ เทาเงิน สนนราคา 673,000 บาท
       การขับขี่ผู้เขียนเริ่มออกจากรุงเทพตั้งแต่เช้ามืด โดยใช้เส้นทาง บางบัวทอง-สุพรรณบุรี ไปจนตัดบายพาสจังหวัดนครสวรรค์ เป็นช่วงทางตรงถนนดี จึงมีโอกาสได้ใช้ความเร็วสูง ซึ่งเครื่องยนต์ดีเซลคอมเมนเรล2.5 ลิตร เทอร์โบแปรผัน พร้อมอินเตอร์คูลเลอร์ 143 แรงม้า แรงบิดสูงสุดระดับ 330 นิวตัน-เมตร ผสานการส่งกำลังแบบเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะชุดนี้ ยังเชื่อขนมกินได้เหมือนเดิม เรื่องพละกำลังจัดจ้านพอตัว ส่วนการโยกเปลี่ยนเกียร์กระชับคล่องมือ ระยะกดคลัทซ์จับถนัดเท้า สมกับฉายา “สปอร์ตปิกอัพ”
      
       แม้ความสนุกสนานที่ว่า จะต้องแลกกับช่วงล่างแข็งเป้ก ซึ่งตลอดเส้นทางกรุงเทพ-แม่สอด ผู้เขียนมีโอกาสขับและสลับนั่งเป็นผู้โดยสาร ก็รับรู้ถึงการกระเด้งกระดอนที่สะท้านมาจากพื้นถนนพอสมควร แต่ช่วงล่างแบบนี้ครับทำให้เส้นทางประมาณ 160 กิโลเมตร จาก แม่สอดเข้าอุ้มผาง ผ่านกว่า 1,200 โค้ง กลายเป็นเรื่องง่ายๆ
       ไม่แปลกใจที่ระยะหลัง มาสด้าจะนำจุดเด่นเรื่องช่วงล่างมาเป็นจุดขาย ซึ่งเราเริ่มจะคุ้นชินกับคำว่าระบบช่วงล่าง DE-S (Dynamic Enhance-Suspension System) ที่หนึบแน่น ให้การขับขี่มั่นใจ สาดใส่ทุกโค้งไม่มีหลุด อย่างช่วงขึ้นเขาลงเข้าใช้เกียร์ 3-4 ผ่านฉลุย บางช่วงบางตอนผ่านเขตชุมชน ลดความเร็วให้เหมาะสม ขณะเดียวกันประสิทธิภาพการเบรก ถือว่าตอบสนองแรงกดฝ่าเท้าดีพอสมควร 
       จากแม่สอด สู่อุ้มผาง ผู้เขียนก็ขับไป แวะกินกาแฟเข้าห้องน้ำไปเรื่อย พร้อมชมความงามตามธรรมชาติที่โอบล้อมด้วยภูเขาลูกโตจอดรถพบปะเด็กไทยสำเนียงกระเหรี่ยง ที่กรูเข้ามาทักผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้ม ปนคราบน้ำลายเปื้อนน้ำมูก ทั้งยังสนใจปิกอัพคันงามแบบไม่วางตา
       ...ผ่านไปแป็บเดียว หรือรวมเวลาเดินทางช่วงนี้ประมาณ 3 ชั่วโมง การขับขี่สบายกว่าที่คิด และต้องขอบคุณสมรรถนะอันยอดเยี่ยมของ “บีที-50” รุ่น “เจ้าถนน” (Road Master) ที่พาผู้เขียนและคณะมาถึงอำเภอสุดเขตประเทศไทย
      
       ส่วนความหวังที่อยากจะเจอลมเย็น สัมผัสหนาว ประเด็นนี้ “มาสด้า” และท่าน “เจ้าถนน” ช่วยไม่ได้ครับ เพราะผู้เขียนเดินไปช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โชคไม่ดีที่กลางวันร้อน กลางคืนอบอ้าว (แต่ไปตอนนี้หนาวแน่) ดังนั้นก่อนนอนจึงตัดสินใจจับรีโมท กดปุ่มพาวเวอร์สีแดง และปรับอุณหภูมิไว้ 22 องศา...กู้ดไนท์สบายตัวที่อุ้มผาง!
      

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น